Siyapat Photibusayawat (Orn) Sound Producer
ออนเติบโตจากบัณฑิตจบใหม่สู่โปรดิวเซอร์ห้องเสียงที่มีเบอร์โฆษกถึง 300 เบอร์ในโทรศัพท์มือถือ คติการทำงานของอรมีสองข้อใหญ่ๆ หนึ่ง ต้องทำงานให้ดีที่สุด อย่าให้ใครมาว่าทีมของตัวเองได้ และสอง จะไม่ยอมถ่ายรูปกับดาราตอนมาอัดเสียงเป็นอันขาด
เบอร์โฆษก 300 เบอร์
“การโทรเช็คโฆษกเป็นความสนุกหนึ่งในงานของเรา ช่วงแรกๆ ต้องจดบทว่าโทรไปจะพูดอะไรบ้าง ‘สวัสดีค่ะ ออนจาก Mellow Tunes นะคะ’ ตอนนี้มีเบอร์โฆษกประมาณสามร้อยเบอร์ในมือถือ แล้วโฆษกบางคนเป็นดารา เวลาเขามาเราจะตื่นเต้นมาก แต่ต้องเก็บไว้ในใจ พี่ซันนี่นี่กรี๊ดมากเลยนะ มา 2 รอบแล้ว ก็ไม่เคยถ่ายรูปกับเขา ต้องเก็กทำโปรไว้ก่อน หรือตอนที่โทรไปหาพี่แหนม รณเดช ก็ดี
เราชอบเพลงของเขาอยู่แล้ว แล้วเขาตั้งเพลงตัวเองเป็นเสียงรอสาย พอโทรทีไรก็เหมือนได้กลับมานั่งฟังเพลงเขาทุกทีเลย อารมณ์เหมือนได้โทรหาคนที่ชอบ”
โปรดิวเซอร์ห้องเสียง
“งานของเราคือต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้า เหมือนเราไปช่วยเขาทุกๆ อย่าง อะไรที่เขาคิดไม่ออก ก็ช่วยเขาคิด เราเรียนเรื่องการทำหนัง เลยพอรู้อยู่แล้วว่าโปรดิวเซอร์ทำหน้าที่อะไร แต่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับโปรดิวเซอร์ห้องเสียง ไม่รู้ว่าห้องเสียงทำอะไรบ้าง งานที่ยากที่สุดไม่ใช่ความรู้เรื่องเสียงแต่เป็นการคุยกับคน ยิ่งเป็นลูกค้าผู้ใหญ่เรายิ่งไม่ถนัด เพราะคิดเสมอว่าเราเป็นเด็ก เด็กที่เพิ่งเข้ามาทำงาน กลัวทำพลาด”
งานของเราคือต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้า เหมือนเราไปช่วยเขาทุกๆ อย่าง อะไรที่เขาคิดไม่ออก ก็ช่วยเขาคิด
โดนทั้งทีก็โดนทั้งทีม
“เรื่องใหญ่ที่สุดที่พลาดคือการสื่อสารระหว่างทีมกับลูกค้า เช่น ทีมต้องการขอสิ่งหนึ่งจากลูกค้า เราก็ไปบอกลูกค้าเลยว่า ขออันนี้เพิ่มได้ไหม บางทีลูกค้าจะตอบมาว่าเขาให้ไปแล้ว ปัญหาอยู่ที่เราไม่สื่อสารกับทีมก่อนว่าสิ่งที่อยากได้คืออะไร ทำไมถึงต้องอยากได้ ทำไมถึงต้องไปขอเขาเพิ่ม ตอนนั้นคือสื่อสารไม่ค่อยเก่ง รับอะไรมาก็เอาออกไปอย่างนั้น พอทำงานพลาดก็มีฟีดแบคว่าทำไมเด็กคนนี้ทำงานอย่างนี้ แต่พอโดนตำนิมันไม่ใช่แค่เราคนเดียว มันโดนทุกคน การผิดพลาดทำให้เขามองเราไม่ดี มองบริษัทไม่ดีว่าไม่เก่ง ไม่โปร เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราเลยต้องเปลี่ยนตัวเอง ตั้งใจว่าต้องสื่อสารให้ดีกว่านี้ ฝึกเยอะๆ เพราะประสบการณ์สำคัญมาก ทำให้เขาประทับใจ ถ้าเราทำดี เขาก็จะชมทั้งทีมเหมือนกัน”
Comments